รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปาฐกถาพิเศษ “นโยบายและมาตราการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”

วันที่ 19 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 น. พล.ต.ท. รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “นโยบายและมาตราการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” ในโครงการสัมมนา เรื่อง แนวทางการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมี พลตำรวจโท บุญจันทร์ นวลสาย ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา เป็นประธานเปิดงานสัมมนาฯ พร้อมด้วยพลตำรวจโท วันไชย เอกพรพิชญ์ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา คณะกรรมาธิการการกฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภา และผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 200 คน เข้าร่วมฯ ณ ห้องพระศิวะ ชั้น 3 โรงแรมอัศวินแกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร

โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยบูรณาการทุกภาคส่วน ซึ่งในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ตนได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมีหลายหน่วยร่วมปฏิบัติ เช่น ป.ป.ง., ตำรวจไซเบอร์ เป็นต้น
สำหรับผลการปฏิบัติงานในห้วงที่ผ่านมาทุกหน่วยงานได้ให้ความร่วมมือและให้การสนับสนุนเป็นไปอย่างดีจนทำให้สามารถยึด อายัดทรัพย์สินผู้กระทำความผิดมูลค่ากว่า 19.6 ล้านบาท ช่วยเหลือเหยื่อ จำนวน 118 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 61.9 ล้านบาท
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทั้งไทยและจีนกำลังเอาจริงและดำเนินการกับอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเข้มข้น และจากการหารือกับนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ทราบว่าล่าสุดมีการรับตัวชาวจีนที่เมียนมา กลับไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายที่จีนหลายพันคน นอกจากนี้ สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ คือ กรณีการสแกนม่านตาแลกเงินดิจิทัล ซึ่งกำลังตรวจสอบการลงนามบันทึกความเข้าใจหรือ MOU กับบริษัทสิงคโปร์
ม่านตาถือว่าเป็นอัตลักษณ์ส่วนบุคคล เรากังวลว่าหากมีการนำข้อมูลตรงนี้ไปเปิดบัญชีม้า ก็จะได้บัญชีม้ากว่า 1.2 ล้านบัญชี อาจนำไปสู่การทำนิติกรรมที่ผิดกฎหมายหรือการหลอกลวงประชาชน ขอย้ำว่าอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องไกลตัว ซึ่งสำหรับการจัดสัมมนาในวันนี้ผมเชื่อมั่นว่าทุกท่านจะได้รับประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง และขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันขับเคลื่อนภารกิจในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้บรรลุผลโดยเร็ว เพื่อพี่น้องประชาชน และความสงบสุขของประเทศต่อไป
