Thursday, 18 December 2025 | 10 : 28 pm
Thursday, 18 December 2025
10 : 28 pm

เปิดใช้แล้ว! ถนนไชยา-บ้านนาเดิม สุราษฎร์ฯ สายหลักลงใต้

กรมทางหลวง ขยายทางหลวงหมายเลข 41 ไชยา-บ้านนาเดิม สุราษฎร์ธานี ยาว 41.5 กม. งบ1,857 ล้านบาท เสร็จก่อนกำหนด 6 เดือน คว้ารางวัล “โครงการก่อสร้างดีเด่นประจำปี 2568”


นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.)เปิดเผยว่า กรมทางหลวง โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 1 ได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างและบูรณะผิวทางหลวงหมายเลข 41 สาย อ.ไชยา – อ.บ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 เร็วกว่าสัญญาถึง 6 เดือนเต็ม ความสำเร็จนี้เป็นไปตามแผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของทางหลวงสายหลักของประเทศ

ทางหลวงหมายเลข 41 สายสี่แยกปฐมพร – พัทลุง ถือเป็น “เส้นเลือดใหญ่” ทางเศรษฐกิจที่สำคัญยิ่ง โดยทำหน้าที่เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งจากภาคกลางสู่ภาคใต้ตอนล่าง เป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าและพืชผลทางการเกษตร มีปริมาณจราจรสูง และมีรถบรรทุกขนาดใหญ่จำนวนมาก ทำให้มีความจำเป็นต้องบูรณะปรับปรุงอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการสัญจรของผู้ใช้เส้นทาง ลดปัญหาอุบัติเหตุ บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

โดยออกแบบเป็นผิวทางคอนกรีตชนิด Jointed Plain Concrete Pavement (JPCP) หนา 32 ซม. ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง อายุการใช้งานยาวนาน และมีต้นทุนบำรุงรักษาต่ำ โครงการครอบคลุมช่วง อ.ไชยา – อ.บ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะทางรวมประมาณ 41.5 กิโลเมตร ด้วยวงเงินงบประมาณรวม 1,857,962,000 บาท แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 สัญญา เพื่อให้การบริหารงานก่อสร้างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและแล้วเสร็จตามแผนโดยเร็ว โดยเฉพาะตอน 3 ดำเนินงานรแล้วเสร็จล่วงหน้า 6 เดือน ลดผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชน ได้รับ “รางวัลโครงการก่อสร้างดีเด่นประจำปี 2568” ด้านการบริหารจัดการและการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่

โครงการนี้ได้ใช้เครื่องปูผิวคอนกรีต ชนิด Concrete Slip Form Paver ซึ่งทำให้ผลงานออกมามีคุณภาพสูงและแล้วเสร็จตามแผน นอกจากนี้ ยังได้ให้ความสำคัญกับการ คำนึงถึง “ประชาชน” เป็นอันดับแรก โดยมีการวางแผนและสื่อสารกับชุมชนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบต่อการจราจรและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ให้กระทบน้อยที่สุด

ปัจจุบันโครงการนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์ และเปิดให้ประชาชนสัญจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งมอบ ผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เนื่องจากสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ทั้งหมดนี้จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวของภูมิภาค

กรมทางหลวง จึงให้ความมั่นใจว่า ความสำเร็จอันเป็นแบบอย่างที่ดีของโครงการนี้ จะถูกใช้เป็นต้นแบบและแรงผลักดันสำคัญ เพื่อสร้างสรรค์โครงการอื่น ๆ ให้ได้มาตรฐานดีเด่นต่อไป ตามความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้ก้าวหน้าและสมบูรณ์ที่สุด

Lastest