Friday, 19 December 2025 | 8 : 38 pm
Friday, 19 December 2025
8 : 38 pm

ยุบสภาบอร์ดอีอีซีเกียร์ว่างแผนลงทุนชะงัก-หวั่นนักลงทุนหนี,รอครม.ใหม่อนุมัติ

อีอีซี เผยหลังประกาศยุบสภา บอร์ดกพอ.ยกเลิกประชุมแผนลงทุนอุตสาหกรรมวงเงิน 9,700 ล้านบาทชะงัก หวั่นนักลงทุนเปลี่ยนไปที่อื่น รวมแผนพัฒนาเมืองการบิน การเพิ่มจังหวัดที่4 ปราจีนบุรี ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า ภายหลังการประกาศยุบสภา เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ทำให้เป็นรัฐบาลรักษาการ ส่งผลให้การดำเนินงานหลายเรื่องถูกจำกัดอำนาจตามกรอบของรัฐบาลรักษาการ รวมถึงการประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ดกพอ.) ที่กำหนดไว้ในวันที่ 17 ธันวาคม 2568 ไม่สามารถประชุมได้ ทำให้วาระการประชุมหลายเรื่องที่เตรียมสำหรับขับเคลื่อนต้องชะลอออกไป ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่

วาระที่เตรียมเสนอบอร์ดพิจารณา ดังนี้

1.ขออนุมัติ ให้สิทธิประโยชน์การลงทุน จำนวน 7 ราย วงเงินรวมประมาณ 97,000 ล้านบาท ประกอบด้วย อุตสาหกรรมด้านยานยนต์ พวกหัวฉีด และเกียร์อัตโนมัติสำหรับรถไฮบริด จำนวน 2 ราย , ด้านโลจิสติกส์ จำนวน 3 ราย ,อุตสาหกรรมผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องเก็บความเย็น จำนวน 1 ราย และอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กกล้าสีเขียวหรือเหล็กกล้ารักษ์โลก (green steel) จำนวน 1 ราย 

“ที่ผ่านมา อีอีซี ได้จัดโรดโชว์ดึงนักลงทุนเข้ามา แต่เนื่องจากกระบวนการให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนมีความล่าช้า และต้องรอร่างประกาศฯสิทธิประโยชน์ให้แก่นักลงทุนในพื้นที่อีอีซี อยู่ระหว่างเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ดังนั้นในระหว่างรอ อีอีซี ได้พิจารณาการลงทุนรายโครงการ โดยใช้ร่างประกาศฯเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่นักลงทุนแต่ละราย เพื่อนำเสนอต่อบอร์ดกพอ.เห็นชอบก่อน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนสามารถเดินหน้าได้ตามแผน  เนื่องจากบอร์ดกพอ.ไม่สามารถจัดการประชุมได้ทำให้การพิจารณาแผนการลงทุนดังกล่าวต้องรอไปก่อน”

นายจุฬา กล่าวว่า อีอีซี ตั้งเป้าในการลงทุนในพื้นที่ทุกอุตสาหกรรมปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งในปี 2568 มีมูลค่าลงทุนประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สภาพัฒน์ ฯจัดเก็บจากการลงทุนจริง และหากสิทธิประโยชน์การลงทุน จำนวน 7 ราย ผ่านการอนุมัติคาดว่า จะเริ่มเห็นเม็ดเงินการลงทุนในปี 2569 ซึ่งอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กกล้าสีเขียว green steel  มูลค่าสูงสุดประมาณ 70,000 ล้านบาท รอมา 1 ปีหากกระบวนการอนุมัติล่าช้าอาจจะทำให้เปลี่ยนไปลงทุนที่อื่นได้

2.ขออนุมัติสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ให้บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) เพื่อให้นำไปเจรจาและดึงนักลงทุนเข้ามาร่วมดำเนินการ โดย มีสิทธิประโยชน์ 14 เรื่อง ได้แก่ การลดหย่อนด้านภาษีต่างๆ ทั้งภาษีเงินได้  ภาษีที่ดิน  เพื่อผลักดันในส่วนของการพัฒนาเมืองการบิน 

3.ขออนุมัติรูปแบบการร่วมลงทุนตามระเบียบ PPP EEC Track โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง ภายใต้โครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ (EEC Capital City: EECiti) เพื่อเตรียมรองรับการพัฒนาทุกกิจกรรมในพื้นที่เมืองใหม่อัจฉริยะ ระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี

4.ขออนุมัติเพิ่มจังหวัดปราจีนบุรี เป็นพื้นที่อีอีซี จังหวัดที่ 4 หลังศึกษาแล้วพบว่าปราจีนบุรี มีความเหมาะสมมากที่สุด และมีความเป็นไปได้สูง สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมและการพัฒนาเมืองได้ ซึ่งนอกจากจะเกิดการลงทุนใหม่ ยังสามารถเปลี่ยนการลงทุนเดิม สู่อุตสาหกรรมใหม่สีเขียว โดยเฉพาะภาคบริการ เช่น บริการที่รองรับสังคมผู้สูงอายุ สุขภาพ การแพทย์ และการท่องเที่ยวคุณภาพสูง 

Lastest