“รองนายกฯ สุชาติ” สั่งกรมอุทยานฯ เร่งเครื่อง “เคาะประตูบ้าน” สกัดไฟป่า – ลด PM2.5 ทั่วประเทศ ชูมาตรการเชิงรุก พร้อมบังคับใช้กฎหมายเข้มข้น

วันที่ 9 ธันวาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการด่วนให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) เร่งขับเคลื่อนมาตรการเรือธง “เคาะประตูบ้าน” อย่างเข้มข้น เพื่อสร้างการรับรู้และขอความร่วมมือจากประชาชนในการป้องกันไฟป่า และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูไฟป่าอย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการลดพื้นที่เผาไหม้ในป่าอนุรักษ์ลงให้ได้ถึง ร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี

นายสุชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังคงพบกลุ่มบุคคลลักลอบเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ หาของป่า หรือแม้แต่การจุดไฟกลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อทรัพยากรป่าไม้ และสุขภาพของประชาชน ที่ผ่านมา มาตรการ “เคาะประตูบ้าน” ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญเชิงรุกที่กระทรวงฯ กำหนดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนโดยตรงในการ “ห้ามเผา” เพื่อป้องกันไฟป่าและลดฝุ่น PM2.5 พร้อมทั้งใช้กลไกท้องถิ่นเป็นแกนหลักควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมดูแลรักษาป่าอย่างยั่งยืน”

ซึ่งผลจากการขับเคลื่อนมาตรการ “เคาะประตูบ้าน” ตั้งแต่วันที่ 1 – 8 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ในพื้นที่สถานีควบคุมไฟป่าและหน่วยงานในพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศของกรมอุทยานฯ ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกครัวเรือนของชุมชนเป้าหมาย โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก คือ การให้ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับผลกระทบของไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 การขอความร่วมมือ ในการงดเว้นการเผาในทุกรูปแบบ และการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการเฝ้าระวังและป้องกันไฟป่า
อาทิ ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ สถานีควบคุมไฟป่าปางมะผ้า (แม่ฮ่องสอน) สถานีควบคุมไฟป่าดอยภูคา (น่าน) และสถานีควบคุมไฟป่าพะเยา (เชียงราย) พื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ สถานีควบคุมไฟป่าหุบกะพง (เพชรบุรี) ดำเนินการที่หมู่บ้านดอนขุนห้วยและหมู่บ้านใหม่พัฒนา พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ การจัดกิจกรรม Kick off ภายใต้แนวคิด “หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา” ที่ภูสอยดาว (พิษณุโลก) และดำเนินการครอบคลุมหลายตำบลรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติภูเรือ (เลย) และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง และในพื้นที่ภาคตะวันตก ได้แก่ สถานีควบคุมไฟป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านทิศตะวันตก (กาญจนบุรี) ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำหนดแนวทางการจัดการเชื้อเพลิงด้วยการชิงเก็บชิงเผาพื้นที่ทำกินของชุมชน ตามมาตรา 121 แห่ง พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
นายสุชาติ ได้กล่าวเน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละออง PM2.5 ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการเฝ้าระวังและป้องกัน “กระทรวงฯ จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ฝ่าฝืนลักลอบเผาป่า เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบการจัดการไฟป่าอย่างยั่งยืน และขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมมือกันในการ “หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา” เพื่ออากาศที่สะอาดและสิ่งแวดล้อมที่ดีสำหรับคนรุ่นต่อไป”
ทั้งนี้ ประชาชนทุกท่านสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ได้ โดยหากพบเห็นการลักลอบเผาป่า สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง
