ส่อวุ่นวาย!! ชาวบ้านย่านพญาไท ราชเทวี จตุจักร เตรียมยื่นฟ้องศาลเอาผิด กทพ.ฐานหมกเม็ดผลการศึกษา EIA โครงการทางพิเศษชั้นที่2 (Double Deck) ด้าน สหภาพฯ เดินหน้าคัดค้านต่อเชื่อทำกทพ.เสียผลประโยชน์นับแสนล้าน
วันที่ 8 ธันวาคม 2568 นายบัณฑิต พรึงลำภู ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) เปิดเผยว่า ภายหลัง สร.กทพ. ได้ออกมาคัดค้านและยื่หนังสือเรียกร้องผ่านหน่วยงานต่างๆ อาทิ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรงคมนาคม คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา สภาองค์กรของผู้บริโภค เป็นต้น เพื่อให้ทบทวนสัญญาสัมปทานโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (งามวงศ์วาน-พระราม 9) หรือทางด่วน Double Deck ระยะทาง 20.09 กิโลเมตร เนื่องจากสร.กทพ.เห็นว่า โครงการดังกล่าวมีความไม่ชอบมาพากล เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน อีกทั้งมีความพยายามปกปิดเงื่อนไขสัญญาให้สาธารณะชนได้รับรู้
การขยายสัญญาสัมปทานให้เอกชนเพิ่มอีก 22 ปี 5 เดือน จากเดิมสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุด ปี 2578 แลกกับการที่ให้เอกชนลงทุนก่อสร้างทางด่วน Double Deck ใช้เงินลงทุนจำนวน 3,400 ล้านบาท และเก็บค่าผ่านทางโครงข่ายระบบทางด่วนขั้นที่ 1และ2 อัตรา 50 บาท สำหรับรถ 4 ล้อ จากอัตราปัจจุบัน 90 บาท นับตั้งแต่สัญญาสัมปทานมีผลนั้น เชื่อว่ายังมีคนจำนวนมากไม่ทราบว่าไม่ใช่เก็บค่าผ่านทางในอัตรานี้ตลอดไป ซึ่งเท่าที่ทราบตามสัญญาสัมปทานระบุว่า เอกชนมีสิทธิ์ปรับค่าผ่านทางปรับเพิ่ม 10 บาท ทุกๆ 10 ปี
ขณะที่กทพ.จะต้องปรับลดส่วนแบ่งรายได้จากค่าผ่านทาง ในปัจจุบันกำหนด กทพ./เอกชน สัดส่วน 60/40 และจะได้รับครบ 100% หลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2578 จะลดลงเหลือ 50/50 ตลอดอายุสัญญาสัมปทานแก้ไขเพิ่มเติมที่จะไปสิ้นสุดปี 2601 ซึ่งจะทำให้กทพ.สูญเสียเม็ดเงินจำนวนกว่า 7,500 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 165,000 ล้านบาท
นายบัณฑิต กล่าวว่า ขณะนี้ภาคประชาชนตามแนวสายทางพื้นที่เขตพญาไท ราชเทวี จตุจักร เตรียมยื่นฟ้องศาลเอาผิดผู้บริหาร กทพ. และที่ปรึกษาโครงการ เรื่องรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมผิดแปลกจากที่เคยนำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบ ในที่ประชุมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ซึ่งได้มีการคัดค้านโครงการดังกล่าวมาโดยตลอด แต่กทพ.ยังคงเดินหน้าโครงการต่อไปโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านแต่อย่างใด และในวันที่ 9 ธันวาคม 2568 เวลา 13.00 น. คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ ได้เชิญผู้ว่าการ กทพ. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้แทนประชาชนตามแนวสายทางที่ได้รับผลกระทบ และสร.กทพ. เข้าร่วมประชุมที่อาคารรัฐสภา