“วิศณุ” รองผู้ว่าฯกทม.เผยศึกษาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไข่แดง รู้ผล ม.ค. 69 เตรียมจัด Market Sounding รับฟังความเห็นเอกชนลงทุนกลางเดือนธ.ค.นี้ ยันต้องจบในสมัยนี้
เริ่มนับถอยหลัง “ สัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว” (รถไฟฟ้าบีทีเอส) เส้นทางหลัก สายสุขุมวิท หมอชิต-อ่อนนุชและสายสีสม สนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ปัจจุบันมี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ บีทีเอสซี ผู้รับสัมปทานโครงการ เดินรถตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค.2542 ระยะเวลาสัญญาสัมปทาน 30 ปี จะสิ้นสุดวันที่ 4 ธ.ค.2572
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยทีมข่าว “The Recorder” ว่า ปัจจุบัน กทม.โดยสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาแนวทางการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นไข่แดงเขตเมืองชั้นใน ภายหลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุดปี 2572 ตามพระราชบัญญัติการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562
สจส.ใช้งบประมาณว่าจ้างที่ปรึกษา วงเงินประมาณ 28 ล้านบาท ระยะเวลาศึกษา 270 วัน
กำหนดขอบเขตการศึกษา เรื่องการลงทุนโดยเปิดให้เอกชนร่วมทุนควรเป็นรูแบบใดที่เหมาะสมอาทิ อาจจะมีการขยายสัญญาสัมปทานเดินรถให้เอกชนรายเดิม หรือ จ้างเดินรถต่อไปจนกว่าจะหมดสัญญา หรือ ยกเลิกสัญญาที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อทำสัญญาใหม่ รวมถึงการศึกษากรณีซื้อโครงการคืนจากเอกชนโดยรัฐจ่ายเงินชดเชยให้ด้วย
ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับโครงการศึกษาแนวทางการบริหารจัดการระบบรถไฟฟ้าแบบองค์รววม (Single Ownership) เพื่อให้รถไฟฟ้าทุกสายอยู่ภายใต้การบริหารจัดการองค์กรเดียว ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการบริการจัดการระบบตั๋วร่วม (Common Ticket Act) ในการกำหนดระบบค่าโดยสารร่วม (Common Fare) หรือ ตั๋วร่วม ทำให้การเดินทางของประชาชนสามารถเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าอย่างสะดวกด้วยบัตรใบเดียว และไม่มีค่าแรกเข้า
นายวิศณุ กล่าวว่า ตอนนี้ที่ปรึกษาฯ อยู่ระหว่างสรุปแนวทางดำเนินการ และเตรียมจัดรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชน (Market Sounding) สำหรับให้เอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีเขียว กลางเดือน ธ.ค.2568 เพื่อนำข้อมูล และความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน มาประมวลประกอบผลการศึกษาให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ตามสัญญาที่ปรึกษาจะต้องส่งรายงานสรุปผลการศึกษาให้ กทม. ภายในเดือน ม.ค.2569 เพื่อส่งต่อกระทรวงมหาดไทยพิจารณา หากได้รับความเห็นชอบจะเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) พิจารณารูปแบบการลงทุนตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน พ.ศ.2562 ตามลำดับ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ
ขั้นตอนต่อไป กทม. โดย สจส. จ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการจัดทำเอสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal:RFP ) ใช้งบประมาณ 10-15 ล้านบาท ใช้เวลา 3-4 เดือน จึงประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนได้
“ตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหลัก ระบุให้สิทธิ บริษัท บีทีเอสซีในฐานะคู่สัญญา สามารถยื่นแสดงความจำนงสนใจ กรณีต้องการต่อสัญญาสัมปทานการเดินรถ ได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี ซึ่งครบ เดือน ธ.ค. 2567 หากต้องการใช้สิทธิต่อสัญญาเดินรถต้องทำหนังสือส่งให้กทม.ภายในกำหนด จนถึงขณะนี้ บริษัท บีทีเอสซี ยังไม่แสดงท่าทีแต่อย่างใด”
ปัจจัยหนึ่งบริษัท บีทีเอสซี ยังได้รับค่าจ้างเดินรถ หลังหมดสัญญาสัมปทานเส้นทางหลัก สายสุขุมวิท หมอชิต-อ่อนนุช และสายสีสม สนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน รวมต่อส่วนต่อขยาย 1 ช่วงตากสิน – บางหว้า และ ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และส่วนต่อขยาย 2 ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ไปจนถึงปี 2585
“ยอมรับอาจจะเปิดประมูลไม่ทันในสมัยคณะผู้บริหารกทม.ชุดปัจจุบัน อย่างไรก็ตามคณะผู้บริหาร กทม. ชุดนี้ โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีความตั้งใจจะดำเนินการเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ได้ข้อสรุปแนวทางที่ชัดเจน ก่อนครบวาระ เดือน มิ.ย.2569 เพื่อให้คณะผู้บริหารชุดต่อไป สามารถดำเนิการได้อย่างต่อเนื่องแบบไร้รอยต่อ” นายวิศณุ กล่าวทิ้งท้าย