กรมทางหลวง ระดมเจ้าหน้าที่เร่งปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วมภาคใต้ ซ่อมทางหลวง – คอสะพานขาด พร้อมส่ง “รถ 6 ล้อ-ทีมช่วยเหลือ” กู้ภัยหาดใหญ่!

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ลงพื้นที่ประสบอุทกภัย และมีข้อสั่งการให้หน่วยงานทุกภาคส่วนลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนทันที ในส่วนของกรมทางหลวงตนได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง ศูนย์สร้างทาง และศูนย์สร้างและบูรณะสะพานเร่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนกระหน่ำใน 8 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช, สงขลา, สตูล, พัทลุง, ตรัง, ยะลา, ปัตตานี, และนราธิวาส โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรเข้าปฏิบัติการฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมทันที เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย เร่งบรรเทาความเดือดร้อน ตลอดจนอำนวยความสะดวก และความปลอดภัย ด้านการเดินทางแก่พี่น้องประชาชนอย่างสูงสุด

นายปิยพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้กรมทางหลวงได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้รวม 8 จังหวัด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17:00 น. พบจุดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรวมทั้งสิ้น 82 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้ สามารถสัญจรผ่านได้ 69 แห่ง และ มีจุดที่ยังไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 13 แห่ง

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้ระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรเข้าแก้ไขจุดที่ผ่านไม่ได้ทันที เพื่อเร่งเปิดเส้นทางการจราจรให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ได้แก่ การซ่อมแซมคอสะพานขาด ทล. 4121 (พัทลุง) โดย ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานนครศรีธรรมราช ได้รับมอบหมายให้เร่งนำวัสดุเข้าถมบริเวณคอสะพานที่ขาดบนทางหลวงหมายเลข 4121 ตอนแม่ขรี – โหล๊ะจังกระ คลองท่าเชียด จังหวัดพัทลุง แล้วเสร็จเพื่อให้ประชาชนสัญจรได้ขั่วคราว โดยกรมทางหลวงได้มีการติดตั้งป้ายเตือน สัญญาณไฟ และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความปลอดภัยในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับภารกิจช่วยเหลือประชาชนและอำนวยความสะดวกการเดินทางในพื้นที่ อ.หาดใหญ่นั้น กรมทางหลวง โดยสำนักงานทางหลวงที่ 18 แขวงทางหลวงในสังกัด และศูนย์สร้างทางสงขลา ได้เร่งปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
1. จัดบริการรถ 6 ล้อจำนวน7คัน รับ-ส่ง ฟรี เส้นทางจากสนามบินหาดใหญ่ ไปยังตัวเมืองหาดใหญ่ และ จากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ไปยังจังหวัดสตูล
นอกจากนี้ ยังมีการจัดกำลังและเครื่องมือ พร้อมทีมวิศวกรและเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน

2. ดำเนินการภารกิจอพยพและบรรเทาทุกข์เบื้องต้น โดยศูนย์สร้างทางสงขลา ได้เข้าปฏิบัติภารกิจในพื้นบ้านหนองยายขุ้น ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ กรมทางหลวงได้ดำเนินการ มอบถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ อย่างทั่วถึง
