“รมช.มท.ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์” Kick off กิจกรรม 111 ปี การประปาไทย บริการน้ำดื่มสะอาดฟรี ย้ำ ช่วยลดรายจ่ายประชาชนได้ปีละกว่า 15,000 บาท พร้อมหนุนขับเคลื่อนต่อเนื่อง ทำให้มีประสิทธิภาพและใช้ได้ทุกเวลา

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดกิจกรรม 111 ปี การประปาไทย บริการน้ำดื่มสะอาดฟรี ณ สำนักงานประปาสาขาตากสิน การประปานครหลวง ถ.พระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ โดยมี นายฉันทานนท์ วรรณเขจร ประธานกรรมการการประปานครหลวง นางสาวสุวรา ทวิชศรี ผู้ว่าการการประปานครหลวง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารการประปานครหลวง สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปานครหลวง ประชาชนผู้รับบริการ เข้าร่วม
โอกาสนี้ นายศักดิ์ดา ได้ Kick Off รองน้ำจากก๊อกน้ำประปาใส่ขวดและดื่มร่วมกับผู้บริหารการประปานครหลวง เพื่อยืนยันถึงความพร้อมการให้บริการ และหลังจากนั้นพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตบริการได้มาต่อแถวรองน้ำประปาดื่มด้วยความตื่นเต้นและดีใจ
จากนั้น รมช.มหาดไทย พร้อมผู้บริหารได้เดินตรวจเยี่ยมการให้บริการประชาชนผู้ใช้บริการบริเวณสำนักงานบริการลูกค้า พร้อมพูดคุยสอบถามและรับฟังคำแนะนำข้อเสนอแนะจากประชาชนผู้รับบริการ และมอบขวดน้ำประปาดื่มได้ให้กับประชาชนผู้รับบริการที่เดินทางมาใช้บริการในช่วงเวลาดังกล่าว และได้เยี่ยมชมพัฒนาการของการประปานครหลวงในด้านต่าง ๆ ภายในบริเวณ พื้นที่ 6 ไร่ของสำนักงานการประปาสาขาตากสิน
นายศักดิ์ดา กล่าวว่า ดีใจที่ได้เห็นการประปาที่นอกจากจะทำภารกิจการขายน้ำแล้วยังมีการบริการน้ำฟรีให้ประชาชน เพราะในช่วงที่รับราชการที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ริเริ่มแสวงหาน้ำให้ประชาชนดื่มฟรีในชนบท เนื่องจากในอดีตชีวิตของคนไทยแถวภาคตะวันตกและภาคกลาง ตั้งแต่เด็ก จะรองน้ำฝนมาดื่ม และถ้าน้ำฝนบางปีไม่พอหรือพอเดือน 12 น้ำทะเลหนุนสูง น้ำจากเขาใหญ่ไหลมาบางปะกงปะทะกับน้ำทะเล ส่งผลกระทบต่อน้ำกิน คนจะใช้น้ำจากการรองใส่ในตุ่ม กระทั่งในห้วง 30-40 ปีนี้ ผลกระทบจากสภาวะอากาศและมลพิษต่าง ๆ ทำให้ประชาชนเริ่มไม่มั่นใจว่า “น้ำสะอาดพอหรือไม่ น้ำฝนที่ตกลงมาจากหลังคาจะสะอาดหรือไม่” จึงมีการผลิตน้ำใส่ขวด เดิมคือ “โพลา” กระทั่งพัฒนาการไปจนมีน้ำแร่ น้ำอะไรต่าง ๆ ขายในประเทศ จนกลายเป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่ต้องเสียเงินทุกวัน
“ทุกวันนี้ เวลาไปต่างจังหวัดหรือว่าในกรุงเทพฯ มักถามประชาชนว่า ใครดื่มน้ำฝนบ้าง คำตอบที่ได้ คือ “ไม่มี” ทั้ง 76 จังหวัด ทุกคนซื้อน้ำดื่มหมด ไม่ว่าอยู่ในชนบทหรืออยู่ที่ใดก็ตาม แม้แต่คนชาติพันธุ์ที่อยู่ในป่าในเขาหรือกะเหรี่ยง ม้ง แม้ว ต่าง ๆ ซื้อน้ำดื่มทั้งหมด ไม่มีใครรองน้ำฝนดื่ม ทำให้คนไทยโดยเฉลี่ยเสียเงินวันละประมาณ 10 บาท หรือมากกว่านั้น เพื่อซื้อน้ำดื่ม เดือนละ 300 บาท ถ้าในบ้าน ในครอบครัวมี 4 คน จะเสียเดือนละ 1,200 บาท เมื่อคิด 1 ปี จะเสีย 14,400-15,000 บาท ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะแรงงานรับจ้าง หรือคนที่หาเช้ากินค่ำ” รมช.มท. กล่าว
นายศักดิ์ดา กล่าวต่อว่า การประปานครหลวง ได้นำนโยบายของนายกรัฐมนตรี มาขับเคลื่อน “บ้านน้ำดื่ม” ซึ่งหากทางราชการมีบ้านน้ำดื่มในทุกพื้นที่ จะช่วยลดรายจ่ายของพี่น้องประชาชน นอกจากจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการแล้ว ยังจะเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนต่างจังหวัดที่เดินทางเข้ามาในเขตของการประปานครหลวงด้วย ถือเป็นบริการสาธารณะของรัฐที่มีประโยชน์
อย่างไรก็ตามสิ่งที่การประปานครหลวงหรือแม้แต่ภาคราชการจะต้องคำนึงอีกประการหนึ่ง คือ เมื่อเวลาสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก หรือเวลาทำพิธีเปิด มันดูเรียบร้อยดี แต่การดูแลรักษาหรือทำความสะอาด ดูแลระบบเพื่อให้มันใช้งานได้ทุกวัน 24 ชั่วโมง เป็นสิ่งที่สำคัญกว่า เพราะการทำให้ประชาชนมั่นใจมันเป็นเรื่องที่ยาก จึงฝากทุกคนที่มีหน้าที่ “ต้องทำให้มันมีประสิทธิภาพและใช้ได้ทุกเวลา” เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจและมีความรู้สึกดีที่ได้รับบริการจากรัฐ และหากมีสิ่งใดเพิ่มเติม ก็ขอให้พวกเราได้ร่วมกันนำเสนอและต่อยอดเพื่อให้สามารถ “ลดรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน” เพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืนของพี่น้องประชาชน
.
ด้านผู้ว่าฯ กปน. กล่าวว่า กิจการประปาเกิดขึ้นในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2457 จากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระประสงค์ให้พสกนิกรมีน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งจากวันนั้น…ถึงวันนี้ การประปานครหลวงยังคงมุ่งมั่น และให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนการผลิตน้ำประปาที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน จึงเป็นที่มาของการดำเนิน “โครงการน้ำดื่มสะอาดเพื่อประชาชน” โดยให้บริการน้ำดื่มสะอาดฟรีสำหรับประชาชนเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ ลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาน้ำดื่มของประชาชน ซึ่งปัจจุบัน การประปานครหลวง ให้บริการน้ำดื่มสะอาดปลอดภัยฟรี อย่างต่อเนื่องตลอดมา โดยมีจุดให้บริการน้ำดื่มสะอาดเพื่อประชาชน 173 แห่ง ครอบคลุมสำนักงานประปาสาขาทุกพื้นที่บริการ โดยให้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดมา
ในวันนี้ ถือเป็นวันครบรอบ 111 ปีแห่งการก่อตั้งการประปาไทย การประปานครหลวงจึงได้จัดทำจุดให้บริการน้ำดื่มสะอาดฟรีเพื่อประชาชน เพื่อให้ประชนสามารถเข้ามารับน้ำดื่มสะอาดได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า “น้ำทุกหยดมีมาตรฐาน ปลอดภัย” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน
