กทม.ผนึกกำลังทุกหน่วยงาน เตรียมความพร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่จะเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

ตามที่ สำนักพระราชวังได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะ พระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน
สำนักพระราชวัง กำหนดให้ประชาชนสามารถเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ใน 4 ช่วงเวลา ดังนี้ ช่วงที่ 1 เวลา 08.00-10.45 น. ช่วงที่ 2 เวลา 12.00-16.45 น. ช่วงที่ 3 เวลา 17.45-18.30 น. และช่วงที่ 4 เวลา 19.45-21.00 น.โดยจะเปิดให้เข้ากราบถวายบังคมทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 พ.ย. 2568 เป็นต้นไปนั้น

นายไทวุฒิ ขันแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการสนามหลวง พร้อมด้วยนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจการเตรียมความพร้อมในการดูแลอำนวยความสะดวกและการให้บริการประชาชนที่จะเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยได้มีการทดลองการให้บริการประชาชนตามแผนการบริการด้วย

นายไทวุฒิ กล่าวว่า ในส่วนของกทม. ได้เตรียมความพร้อมรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยจัดสถานที่และเส้นทางการเข้าสักการะ รวมทั้งจัดพื้นที่พักคอยบริเวณสนามหลวง ซึ่งสามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 10,000 คนต่อรอบ หรือประมาณ 30,000 คนต่อวัน
นอกจากนี้กทม.ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการรับบริจาคอาหาร เครื่องดื่ม และสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะทำหน้าที่ประสานเครือข่ายภาคราชการและเอกชนเพื่อส่งต่อสิ่งของมายัง กทม. เพื่อแจกจ่าย พร้อมรายงานถึงแผนในการจัดหารถขนส่งอาหาร เพื่อบริการอาหารแก่ประชาชนที่รอคิวนานโดยประชาชนไม่ต้องออกจากคิว และการจัดเตรียมจุดชาร์จโทรศัพท์มือถือภายในเต็นท์พักคอย
ด้านการดูแลกลุ่มเปราะบาง กทม.จะประสานงานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในการจัดหาวีลแชร์เพิ่มเติม ด้านการแพทย์ กทม. และกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกันเตรียมพร้อมขยายจุดบริการทางการแพทย์เพิ่มเติมด้วย

นายไทวุฒิ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา กทม. ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและจัดการจราจรงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุม พร้อมผู้แทนจากหลายหน่วยงานเข้าร่วม อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมประชาสัมพันธ์ ร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน
คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจรในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนทุกด้าน ดังนี้
ด้านการบริหารจัดการประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมถวายความอาลัย กระทรวงมหาดไทย (มท.)ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ รายงานจำนวนผู้เดินทางมายังกระทรวง เพื่อจัดระบบการเคลื่อนย้ายอย่างเป็นระเบียบ โดยจะกำหนดการเดินทางของแต่ละจังหวัดตามลำดับตัวอักษร และคาดว่าจะเริ่มทยอยเดินทางตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.68 เป็นต้นไป
ด้านการบริหารจัดการ ได้จัดตั้งกองอำนวยการร่วมฯ ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อบูรณาการทุกส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นศูนย์ควบคุมสั่งการ โดยเปิดกองอำนวยการฯ ก่อนวันที่ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพ และประชุมติดตามสถานการณ์ตรวจสอบความพร้อม เสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่เป็นประจำทุกวัน
ด้านการคมนาคม กระทรวงคมนาคมได้เตรียมความพร้อมด้านระบบขนส่ง โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะจัดเตรียมรถโดยสารไฟฟ้าปรับอากาศ (EV Bus) ให้บริการรับ–ส่งประชาชนภายในกรุงเทพมหานคร ฟรี 14 เส้นทาง การให้บริการ เรือโดยสารฟรี เส้นทางท่าเรือวัดระฆังฯ – ท่าเรือวัดอรุณฯ – ท่าเรือท่าช้าง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางมายังพื้นที่จัดพระราชพิธี
ส่วนด้านความปลอดภัยในการเดินทางจากต่างจังหวัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง พร้อมประสานกระทรวงสาธารณสุขให้เตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลในแต่ละจังหวัดรองรับเหตุฉุกเฉิน โดยจะมีรถพยาบาลติดตามขบวนเดินทางของแต่ละจังหวัดเพื่อดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลความปลอดภัยและการจัดระเบียบการจราจร โดยได้กำหนดจุดจอดรถและจุดรับ–ส่งประชาชนรอบพื้นที่พระบรมมหาราชวังไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงจัดระบบคัดกรองตั้งแต่ต้นทางในแต่ละจังหวัด จนถึงจุดคัดกรองภายในท้องสนามหลวง ก่อนเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด กรมประชาสัมพันธ์จะร่วมสนับสนุนภารกิจด้านข้อมูลข่าวสาร โดยจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนทั่วประเทศ เกี่ยวกับแนวทางการเข้าร่วมงานพระราชพิธี การเดินทาง และมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเข้าร่วมพิธีด้วยความเรียบร้อย
ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้จัดชุดปฏิบัติการด้านการแพทย์ประกอบด้วย ทีมแพทย์หน่วยแพทย์เคลื่อนที่/เดินเท้า จุดให้บริการด้านการแพทย์และชุดตรวจประเมินด้านสุขภาพจิต และรถพยาบาลฉุกเฉิน รวมทั้งจัดทำแผนรองรับด้านการแพทย์ในระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ เป็นลม เจ็บป่วย อุบัติเหตุ โรคประจำตัว และคนไข้วิกฤต กำหนดเส้นทางส่งกลับสายการแพทย์และโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยฉุกเฉินระดับต่าง ๆ โดยกำหนดโรงพยาบาลที่จะรับผิดชอบให้ชัดเจน
โดยรองนายกฯ ได้กำชับทุกหน่วยงานปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจนเสร็จสิ้นพระราชพิธีฯ ให้ทุกหน่วยวางแผนกำลังพลให้เหมาะสม มอบหมายหน้าที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน ด้านการข่าวให้ทำงานเชิงรุก เพื่อวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และให้ทุกหน่วยงานวางแผนบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง และในวันที่ 8 พ.ย.นี้ จะลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมในการปฏิบัติ ณ ท้องสนามหลวง อีกครั้ง

ขณะที่ นายณรงค์ เรืองศรี ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวย้ำการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านความสะดวกของประชาชนและการบริหารจัดการระบบภายใน โดยเฉพาะการแต่งกาย ขอความร่วมมือประชาชนให้แต่งกายให้เหมาะสม การรับมือฝน เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตก โดยกลุ่มฝนยังมีอยู่ต่อไปอีกหลายวัน หลังจากนั้นปริมาณฝนจะเริ่มลดลง ประชาชนควรเตรียมร่มมา โดยขอให้เป็นร่มสีดำหรือสีสุภาพที่เหมาะสม
รวมทั้งสั่งการหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ดูแลสุขลักษณะในพื้นที่ การจัดเก็บขยะ การดูแลสุขาทุกจุด ซึ่งรวมถึงภายในเขตพระบรมมหาราชวังด้วย โดยให้เพิ่มความถี่ในการเข้าไปดูแลและขนถ่ายสิ่งปฏิกูล พร้อมทั้งกำหนดให้มีระบบถังดักไขมัน เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันท่อระบายน้ำหรือทำลายสิ่งแวดล้อมโดยรอบ
อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 68 จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่สนามหลวง และพระบรมหาราชวัง ประมาณ 10,000-20,000 คน จึงกำชับให้จัดการบริการดูแลและอำนวยความสะดวกให้ดีที่สุด
