ราชเลขาฯ ติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาคูคลองในเกาะรัตนโกสินทร์ สนองพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด”

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาคูคลองในเกาะรัตนโกสินทร์ และคลองแสนแสบ ณ บริเวณคลองบางลำพู และคลองโอ่งอ่าง กรุงเทพมหานคร โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายณรงค์ เรืองศรี ปลัดกรุงเทพมหานคร นายชูชีพ พงษ์ไชย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายพิพัฒน์ ชลอำไพ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง พ.ต.อ.ธรรมนิธิ วนิชย์ถนอม รองเลขาธิการพระราชวัง พล.ต.ปริญ รื่นภาควุฒิ ประจำราชเลขานุการในพระองค์ฯ ปฏิบัติหน้าที่โครงการในพระราชดำริ นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ที่ปรึกษาสำนักงานพระคลังข้างที่ นายขจิต ชัชวานิชย์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารจัดการพื้นที่กรุงเทพมหานครของสำนักงานพระคลังข้างที่ นายมนตรี เดชาสกุลสม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมโยธาและด้านวิศวกรรมปฐพีของสำนักงานพระคลังข้างที่ นางวันทนีย์ วัฒนะ ที่ปรึกษาโครงการฯ นางชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุรินทร์ วรกิจธํารง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ที่ปรึกษาพิเศษด้านงานจิตอาสาและโครงการพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ สุทธิชื่น ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายเดชธนา สายระดา สำนักงานจิตอาสาภาครัฐ สำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ Big-C นายชูโชค ศิวะคุณากร Head of ESG&BSE – SCG นายณัฐ ครุฑสูตร รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายเชาวลิต เมธยะประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ร่วมลงพื้นที่
โอกาสนี้ คณะฯ ได้รับฟังการบรรยายสรุปความก้าวหน้าโครงการฯ ณ บริเวณสะพาน SCG นวัตกรรมคนไทย ซุ้มประตูวชิรสถิต และสะพานดำรงสถิต จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ ภาพรวมแผนแม่บท การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เขื่อน ทางเดินริมคลอง การก่อสร้างและปรับปรุงสะพานข้ามคลอง การบำบัดน้ำเสีย และการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนแนวทางการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาด สวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เกิดการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งลงเรือติดตามสภาพพื้นที่จริง ณ ท่าเรือสะพาน SCG โดยมีเรือจากบริษัท ครอบครัวขนส่ง จำกัด เรือกรุงเทพมหานคร และเรือไฟฟ้า ให้การสนับสนุนเรือในการติดตามจากเส้นทางคลองโอ่งอ่าง และคลองบางลำพู ไปจนถึงท่าเรือป้อมพระสุเมรุ ถนนพระอาทิตย์ ระยะทางรวมประมาณ 2.47 กิโลเมตร
ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครได้ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายกับสำนักพระราชวังและสำนักงานพระคลังข้างที่ น้อมนำพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ในการสนองพระราชดำริและพระราโชบายเพื่อพลิกฟื้นคุณภาพลำน้ำสายสำคัญ คืนชีวิตให้ชุมชนเมือง และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน โดยขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแม่น้ำ และคูคลองสำคัญ พื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน รวม 9 แหล่งน้ำ ได้แก่ 1. แม่น้ำเจ้าพระยา (พื้นที่กรุงเทพมหานคร) 2. คลองคูเมืองเดิม 3. คลองหลอดวัดราชนัดดา และคลองหลอดวัดราชบพิธ 4. คลองบางลำพู และคลองโอ่งอ่าง 5. คลองผดุงกรุงเกษม 6. คลองเปรมประชากร 7. คลองแสนแสบ 8. คลองสามเสน และ 9. คลองลาดพร้าว ซึ่งได้ดำเนินการพัฒนารวม 5 มิติ ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ที่อยู่อาศัยริมคลอง คุณภาพน้ำ การใช้ประโยชน์ลำน้ำ และการมีส่วนร่วมดูแล ซึ่งในปัจจุบันพบว่า แต่ละลำคลองมีความก้าวหน้าที่พัฒนาขึ้นตามลำดับ
สำหรับการตรวจติดตามฯ ในวันนี้ คณะฯ ได้เยี่ยมชม “สะพาน SCG นวัตกรรมคนไทย ข้ามคลองโอ่งอ่าง” บริเวณช่วงสะพานดำรงสถิต-สะพานภาณุพันธ์ ใกล้สถานีรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สถานีสามยอด ประตู 1 ซึ่ง SCG ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบและก่อสร้างร่วมกับกรุงเทพมหานคร โดยนำเทคโนโลยีการพิมพ์คอนกรีต 3 มิติ ที่สามารถสร้างสรรค์รูปทรงที่ซับซ้อนสวยงามได้อย่างแม่นยำ และ ช่วยลดของเสียจากการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปูนซีเมนต์ลดโลกร้อน รุ่นที่ 3 ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าร้อยละ 30 และคอนกรีตรับกำลังอัดสูงสามารถรับกำลังอัดได้มากกว่าคอนกรีตทั่วไป 5 เท่า ช่วยให้โครงสร้างมีขนาดที่ลดลง ลดการใช้ทรัพยากร และยังใช้เวลาเพียง 2 เดือนครึ่งในการก่อสร้าง ซึ่งเร็วกว่าการก่อสร้างแบบเดิม ๆ หลายเท่า และสำหรับในส่วนของกระทรวงมหาดไทย โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับริมคลองโอ่งอ่าง ทั้ง 2 ฝั่งคลอง เป็นระยะทางประมาณฝั่งละ 1.2 กิโลเมตร ตั้งแต่บริเวณซุ้มประตู
เฉลิมพระเกียรติฯ ถ. เจริญกรุง อีกด้วย
